ยาวอีกแล้ว จะบ่นอะไรนักหนาเฮ้ยน้าาาาาาา ........
นั่งเล่น ยืนเล่น นอนเล่นตอนซ้อมอยู่ที่บ้านมีผลต่อการแสดงจริงบนเวทีแค่ไหน
“มีครับ” มีเยอะด้วย โดยเฉพาะนักดนตรีสมัครเล่นที่กำลังจะมีโอกาสขึ้นเวทีเป็นครั้งแรก ไม่ว่าจะงานเล็กงานใหญ่ งานโรงเรียนหรืองานจัดเลี้ยง อบต.แถวบ้าน เพราะท่าทางในการฝึกซ้อมนั้นมันมีผลอย่างมากที่ทำให้เรา “เกิดความเคยชิน” โดยเฉพาะคนที่ซ้อมโดยการนั่งเป็นประจำ และท่าทางที่ชอบซ้อมที่สุดคือ นั่งขัดสมาธิเล่นแบบชิลล์ๆ ที่ผมพูดแบบนี้เพราะอะไร เพราะถ้าเราฝึกซ้อมโดยการนั่งเก้าอี้ อย่างน้อยๆ มันยังมีความเป็นไปได้ เมื่อขึ้นเวทีจริง เราจะหาเก้าอี้ซักตัวในการขึ้นไปนั่งบนเวทีกรณีที่เล่นกีต้าร์โปร่ง ( ไม่น่ามีใครนั่งเก้าอี้ Solo กีต้าร์ไฟฟ้าเนาะ )
ด้วยท่าทางที่เราถนัดมากๆ นั่นเองมันทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดูขัดเขินไปหมดครับเมื่อครั้งหนึ่งต้องไปยืนบรรเลง ไม่ต้องพูดถึง Solo นะ เอาแค่ตีคอร์ดธรรมดา ก็อึดอัดมากมากมาย เพราะอะไร ก็เพราะตอนซ้อมเรานั่งอย่างเดียว กีต้าร์เอยอะไรเอยมันถูกล็อคไว้ด้วยสรีระและท่าทางของเราจนเข้าที่เข้าทาง ไหนจะเรื่องระดับความสูงต่ำระหว่างตัวเอง กับการเล่นระยะห่างที่เป๊ะในขนาดที่เรียกว่า ต่อให้หลับตาก็ไม่พลาดโน้ตใหนๆ แน่นอน แต่วันหนึ่งพอมีสายสะพายเข้ามา คราวนี้แหละบันเทิงของแท้ กีต้าร์ที่ว่านิ่งๆ มันก็พร้อมจะกวัดแกว่งหนีมือตลอดเวลา คราวนี้ความเกร็งมันก็จะทยอยแผ่ซ่านจากสมองล่องลอยไปยันปลายนิ้ว จากที่เคยกดแค่นี้ กลายเป็นว่าต้องกดแรงโดยอัตโนมัติเพื่อไม่ให้กีต้าร์ในมือมันแกว่งไปมา
สิ่งเหล่านี้ที่เกิดขึ้นล้วนทำลายความมั่นใจเราทั้งสิ้นครับ สุดท้ายเราก็จะเจอคำตอบว่า ทำไมนะซ้อมมาตั้งเยอะถึงเวลาเล่นจริงมันดรอปไปหมดทุกอย่างเลย
ดังนั้นแล้ว ลองปรับเปลี่ยนวิธีการซ้อมอีกนิดครับ จากที่เคยนั่งอย่างเดียว ( นั่งขัดสมาธิกับพื้น ) ก็ลองเปลี่ยนมานั่งเก้าอี้บ้าง หรือจากนั่งเก้าอี้ก็ลองเปลี่ยนเป็นหาสายสะพายมาใช้แล้วยืนเล่นบ้าง ( ยกเว้นมือกลองนะ ไม่ต้องยืน มันลำบากไป ) ที่สำคัญนอกจากยืนเล่นแล้ว ลองเดินหน่อยมั๊ย เดินป Solo ไป ตีคอร์ดไปด้วย สร้างความเคยชินหลายๆ แบบครับ เพราะเราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้างเมื่อถึงเวสลาโชว์จริง และที่สำคัญที่หลายๆ คนพลาดมากในการโชว์ นั่นคือเวลาซ้อมลืมจำลองสถาณการณ์จริงของการเล่นครับ โดยเฉพาะเรื่องของเวลา ว่าเอาเข้าจริงแล้วเราต้องเล่นกี่นาที กี่ชั่วโมง ตรงนี้สำคัญมากครับไม่ใช่เรื่องตลกเลย บางคนซ้อมมาทุกเพลงก็จริง แต่ซ้อมไปหยุดไป พักดูดเป็บซี่ จิบเก็กฮวยไปด้วย แล้วบอกตัวเองว่า กรูพร้อมแล้ว บอกได้เลยครับวิธีการคิดแบบนี้ ถ้าคุณไม่เก๋าพอ หรือประสบการณ์บนเวทีไม่มากพอ รับรองดับอนาถทางอารมณ์คาเวทีแน่นอน
นั่นก็เป็นเพราะว่า สถาณการณ์จริงบนเวทีนั้นมันมีหลายสิ่งที่จะทำให้เราดรอปไม่ว่าจะบรรยากาศ คนดู หรือซาวด์ต่างๆ ที่มันอึกทึกไปหมด คราวนี้หากเราไม่เคยซ้อมแบบต่อเนื่องแบบจำลองสถาณการณ์และเวลาจริงมาเลย ซึ่งหนึ่งในปัญหาที่เกิดขึ้นมากที่สุดคือ “เอ๋อครับ” เอ๋อเพราะเหนื่อย เอ๋อเพราะกะเวลาพลาด เอ๋อเพราะ เล่นเพลงที่เตรียมมาจนหมดแล้วแต่เวลายังเหลือตั้งเยอะ เอ๋อเพราะช่วงรอยต่อระหว่างเพลงจะทำตัวยังไง จะพูดอะไรกับคนดู และที่เลวร้ายที่สุด
“เอ๋อเพราะคนดูไม่สนใจ”
เอาเป็นว่า เดี๋ยวจะพยายามหาเวลามาเล่าให้อ่านต่อในหัวข้อที่เรียกว่า เอ๋อแล้วกันครับ เขียนเยอะอ่านมากปวดหัวเปล่าๆ ขอบคุณครับที่อ่านข้อความที่ผมบ่นมาจนถึงตรงนี้
เช่นเคยครับ “ขายตรงๆ ไม่อ้อมค้อม” ชื่นชอบน้าปู แวะเวียนมาเรียนรู้เทคนิคง่ายๆ ประสาบ้านๆ ได้เรื่อยๆ ไม่ต้องจ่ายตังค์ครับ ผมจะพยายามกินอุดมการณ์ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเป็นโรคขาดสารอาหารไปเอง 555
แต่ถ้าอยากสนับสนุนกันไปเรื่อยๆ ให้มีแรงมีกำลังใจในการทำคลิปสอนไปเรื่อยๆ ก็ ขอความอนุเคราะห์กดเข้าไปรับชมผลงานโง่ๆ ตามลิงค์นี่คนละทีครับ สวัสดีครับ รักทุกท่านถึงแม้ผมจะมีครอบครัวแล้วก็ตาม
กดตรงนี้ กดเถอะขอร้อง https://www.youtube.com/watch?v=ms0pIDGiCsE